สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่ทุกคนรู้จักเรียกกันทั่วไปว่า สถานีหัวลำโพง นับเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดของประเทศ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีขบวนรถไฟออกและเข้าสถานีหัวลำโพงนี้จากทุกมุมของราชอาณาจักรไทยตลอดทั้งวัน
แต่ทราบหรือไม่ว่าระหว่างเวลา 23:00 น จนถึง 5:00 น ของทุกวันสถานีหัวลำโพง จะกลายเป็นที่พักพิงของคนไร้บ้าน (Homeless) เพราะในช่วงเวลานี้จะไม่มีขบวนรถไฟเข้าออกสถานี คนไร้บ้านจึงมาหลับนอน หนีหนาวและภยันตรายในช่วงกลางคืนจนถึงรุ่งสาง
ทุกคืนที่สถานีหัวลำโพงนี้จะมีคนไร้บ้านมาอาศัยพักพิง เพราะอย่างน้อยๆก็ปลอดภัยกว่าการต้องนอนบนท้องถนน แม้แต่ครอบครัวที่มีลูกเล็กและกำลังจะเดินทางกลับต่างจังหวัด ก็จะมานอนรอรถไฟที่นี่ด้วยเพราะเขามีเงินไม่เพียงพอที่จะเช่าห้องพักของโรงแรม เขาจึงใช้สถานีหัวลำโพงนี้เป็นที่พักพิงร่วมกับคนไร้บ้าน ดังนั้นหัวลำโพงจึงไม่ใช่เพียงสถานีรถไฟเท่านั้นแต่ยังเป็นที่ที่หลายๆคนที่ไร้บ้าน ไร้ที่พักอาศัย ได้มาพักพิงจนถึงเช้า
ในระหว่างเดือนธันวาคมปี 2562 สมาชิก ออร์เดอร์ ออฟ มอลตา ประเทศไทยได้ทราบถึงความจำเป็นของคนไร้บ้านที่มาพักพิงที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เขาเหล่านั้นไม่ได้ต้องการเพียงเฉพาะอาหารแต่ยังต้องการผ้าห่มที่จะทำให้เขาหายหนาวในตอนกลางคืนอีกด้วย และเนื่องจากมีองค์กรหลายแห่งที่ได้มอบอาหารแก่ผู้ที่มาพักอาศัยที่สถานีแล้ว ทางคณะฯจึงได้จัดเตรียมผ้าห่ม ถุงเท้าและของเล่นให้เด็กๆแทน ซึ่งช่วยให้กลางคืนอันยาวนานนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยความสบายขึ้นในระดับหนึ่ง
หลายๆครั้งเมื่อได้มาช่วยคนที่ตกทุกข์ได้ยากแล้วนั้นเราจะมีเรื่องประทับใจกลับไปด้วย ในครั้งนี้ก็เช่นกัน มีเด็กหญิงคนหนึ่งมาทักเตือนเราว่าอย่าลืมให้ผ้าห่มและของเล่นแก่น้องชายของเธอด้วย เธอเฝ้ารอเพื่อพาเราไปหาน้องชายของเธอ เมื่อมาคิดดูเด็กหญิงน้อยคนนี้รู้จักดูแลผู้ที่ต่ำต้อยกว่าเธอด้วยใจรักตั้งแต่เยาว์วัย นับเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ระลึกเสมอว่าเราควรดูแลผู้ป่วยและผู้ยากไร้ด้วยใจรักตามแบบฉบับของท่านเยราด ผู้ก่อตั้งคณะของเรา
ในเดือนธันวาคมของปี 2562 ทางออร์เดอร์ ออฟ มอลตา ประเทศไทยได้แจกจ่ายผ้าห่มถึง 600 ผืนพร้อมด้วยถุงเท้า เครื่องนุ่งห่ม อาหารแห้งและของเล่นให้เด็กๆ
ออเดอร์ ออฟ มอลตา ประเทศไทย ขอเป็นผู้รับใช้ผู้ป่วยและผู้ยากไร้เยี่ยงเขาเป็นนายที่รัก